ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ประเพณีชิงเปรต


ประเพณี ชิงเปรต
 


สำหรับ ประเพณีสารทเดือนสิบ นั้น เป็นพิธีทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษ และภูตผีต่าง ๆ ด้วยการจัดตั้งสำรับอาหารคาวหวานไว้ที่บริเวณวัด เรียกว่า "ตั้งเปรต" ก่อนที่จะพัฒนามาเป็นพิธีการ ชิงเปรต ซึ่งเป็นประเพณีสารทเดือนสิบประจำภาคใต้
 แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 ครั้งหนึ่ง และวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมีความเชื่อว่า ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 นั้น บรรพบุรุษและญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว โดยเฉพาะผู้ที่ต้องตกนรก หรือ เปรต จะได้รับอนุญาตให้กลับมาพบญาติพี่น้องได้ และจะเดินทางกลับไปนรกดังเดิม ในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ดังนั้น จึงมีการทำบุญในสองวาระดังกล่าวนี้ แต่ส่วนใหญ่มักจะทำในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ที่เรียกว่า "วันส่งตายาย" หรือ "วันส่งเปรต" เพราะมีความสำคัญมากกว่า และลูกหลานคนใดไม่มาร่วม พิธีการ ชิงเปรต นี้ ถือว่าอกตัญญู

ทั้งนี้ พิธีการ ชิงเปรต ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทำบุญ กล่าวคือ เมื่อจัดหมรับ (อ่านว่า หมับ แปลว่า สำรับ) ยกหมรับไปถวายพระภิกษุแล้ว ก็จะเอาอาหารที่จัดไว้ ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหากไปจัดตั้งไว้ให้เปรต โดยมากจะเป็นอาหารที่ผู้ล่วงลับไปแล้วชอบในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ที่ขาดไม่ได้ก็คือขนม 5 อย่าง คือ ขนมพอง หมายจะให้เป็นแพฟ่อง ล่อยลอยพาบรรพชนล่วงข้ามสังสารวัฏ ,ขนมลา ให้เป็นแพรพรรณเครื่องนุ่งห่ม, ขนมกง หรือบางทีก็ใช้ ขนมไข่ปลา ให้เป็นเครื่องประดับ, ขนมดีซำ ให้เป็นเบี้ยไว้ใช้สอย และขนมบ้า ให้บรรพชนใช้เป็นลูกสะบ้าสำหรับเล่นรับสงกรานต์ นอกจากนี้ยังมีของแห้งที่เป็นเสบียงอื่น ๆ ด้วย เช่น ข้าวสาร หอม กระเทียม พริก เกลือ กะปิ น้ำตาล น้ำปลา กล้วย อ้อย มะพร้าว ด้าย เข็มเย็บผ้า ธูปเทียน จัดลงในหมรับด้วย

หมรับที่จัดไว้เพื่อใช้ใน พิธีการ ชิงเปรต จะนำไปตั้งไว้บนร้านที่สูงพอสมควร เรียกว่า ร้านเปรตหรือหลา (ศาลา) เปรต มีสายสิญจน์วงรอบ โดยให้ปลายสายสิญจน์อีกข้างหนึ่งโยงมาสำหรับพระภิกษุชักบังสุกุล และชาวบ้านจะกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้ล่วงลับ เมื่อเสร็จพิธีจะเก็บสายสิญจน์ แล้วก็จะมีการแย่งอาหาร และขนมที่ตั้งเปรตไว้นั้นอย่างสนุกสนาน เรียกว่า ชิงเปรต การแย่งขนมเหล่านั้นแล้วนำมากิน ถือว่าได้กุศลแรงและเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว

การทำบุญด้วย วิธีตั้งเปรต และชักบังสุกุลอุทิศส่วนกุศลนี้ บางครั้งเรียกว่า การฉลอง ห.ม.รับและบังสุกุล ซึ่งถือว่าสำคัญ เพราะถือว่าเป็นวันส่งญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว ซึ่ง พิธีการ ชิงเปรต ในวันสารทเดือนสิบ ถือเป็นพิธีการที่ปฏิบัติกันมาแต่โบราณ และกระทำมาจนถึงทุกวันนี้ โดยจุดประสงค์สำคัญ นอกจากจะเป็นการระลึกถึงบุญคุณผู้ล่วงลับ บรรพบุรุษแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างความผูกพันในครอบครัว และญาติพี่น้องด้วย เพราะเมื่อมีถึงเทศกาล มีการจัด พิธีการ ชิงเปรต คนในครอบครัวที่ออกไปทำมาหากินในถิ่นต่าง ๆ จะกลับมาร่วมพิธีที่บ้านโดยพร้อมหน้ากัน



ข้อมูลจากhttp://board.palungjit.com/

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

อาร์เซน่อล 0-2 ลิเวอร์พูล


  หงส์ฟอร์มดุบุกอัดอาร์เซน่อล10คน2:0 
 
 



ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2011-12

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554


อาร์เซน่อล 0:2 ลิเวอร์พูล


สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ๊ตกินสัน
ถ่ายทอดสด : 18.45 น. ทรูสปอร์ต 1 (101)
ผู้ทำประตู : [1:0]อารอน แรมซี่ย์ น.80(ทำเข้าประตูตัวเอง), [2:0]หลุยส์ ซัวเรซ น.90+1

ครึ่งแรก 
     เริ่มเกมครึ่งแรก เป็น อาร์เซน่อลเจ้าบ้านที่ได้เขี่ยบอลเริ่มเกมก่อน โดยจะบุกจากขวาไปซ้าย
     นาที 19 ลิเวอร์พูลได้โอกาสลุ้นการทำประตูก่อน จากโฆเซ่ เอ็นริเก้ได้เปิดบอลด้านริมเส้นฝั่งซ้าย เข้ามากลางประตูให้กับแอนดี้ คาร์โรลล์ได้โหม่ง เเต่จังหวะสุดท้ายวอยเช็ก เชสนี่นายทวารอาร์เซน่อลพุ่งปัดออกไป

     นาทีที่ 23 ลิเวอร์พูลทำเกมรุกขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เเละเป็นเดิร์ค เคาท์ที่ผ่านบอลเข้ากลางประตูจากริมเส้นฝั่งซ้ายเช่นเดิมให้กับ จอร์แดน เฮนเดอร์ได้โขก เเต่บอลเบาเกินไปทำให้วอยเช็ก เชสนี่รับเอาไว้ได้

     นาทีที่ 30 อาร์เซน่อลเจ้าบ้านได้มีโอกาสลุ้นทำประตูบ้าง จากลูกยิงไกลด้วยขวาของเอ็มมานูเอล ฟริมปงระยะกว่า 30 หลา เเต่โฆเซ่ เรน่าพุ่งปัดออกไปได้

     นาทีที่ 35 จากการลูกสวนกลับเร็ว อาร์เซน่อลเกือบได้ประตูขึ้นนำ ซาเมียร์ นาสรี่ลากบอลจากเเดนตัวเอง เข้าไปฝั่งลิเวอร์พูล ก่อนจะสับไกยิงด้วยขวาเเต่บอลหลุดเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย

หมดครึ่งแรก 
     เริ่มเกมครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลทีมเยือนที่ได้เขี่ยบอลเริ่มเกม โดยจะบุกจากขวาไปซ้าย
     นาทีที่ 54 ลิเวอร์พูลพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย แอนดี้ คาร์โรลล์ตวัดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาเข้ามากลางประตู เเละเป็นมาร์ติน เคลลี่ที่เติมเกมขึ้มมาซัดด้วยขวาเต็มเท้า บอลหลุดเสาเเรกออกไป

     นาทีที่ 68 ลิเวอร์พูลเกือบเสียท่า อังเดร อาร์ชาวินฉกบอลจากเท้ามาร์ติน เคลลี่ ก่อนจะไหลบอลให้โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

     นาทีที่ 70 สถานการณ์อาร์เซน่อลยิ่งเเย่เข้าไปใหญ่ เมื่อเอ็มมานูเอล ฟริมปงที่โดนใบเหลืองตั้งเเต่นาทีที่8 หงายปุ่มใส่ลูคัส เลว่า มาร์ติน แอ๊ตกินสันผู้ตัดสินเเจกใบเหลืองเป็นใบที่2 เเละกลายเป็นใบเเดงไล่ออกจากสนามไป

     นาทีที่ 80 ลิเวอร์พูลได้ประตูขึ้นนำ 1:0 จนได้ จากจังหวะที่อิคกาซี่ มิเกล เตะสกัดไปโดนอารอน แรมซี่ย์ทำให้บอลย้อยข้ามหัววอยเช็ก เชสนี่นายทวารเพื่อนร่วมทีมเข้าไป

     นาทีที่ 90+1 ลิเวอร์พูลได้ประตูหนีห่างเป็น 2:0 จากการประสานงานกันของลูคัส เลว่าที่จ่ายบอลผ่านเเนวรับอาร์เซน่อลให้กับราอูล ไมเรเลสก่อนจะจ่ายบอลเข้ากลางให้หลุย ซัวเรซได้เเปบอลโล่งๆเข้าประตูไป


จบเกม 



รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม 

อาร์เซน่อล :4-2-3-1 
ผู้รักษาประตู : วอยเช็ก เชสนี่
กองหลัง : บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่(อิคกาซี่ มิเกล น.15), โธมัส แฟร์มาเล่น, คาร์ล เจนกินสัน
กองกลาง : เอ็มมานูเอล ฟริมปง น.80 [], อารอน แรมซี่ย์, ธีโอ วัลค็อตต์(นิคลาส เบนท์เนอร์ น.81), อังเดร อาร์ชาวิน(เเรนรี่ น.71), ซาเมียร์ นาสรี่
กองหน้า : โรบิน ฟาน เพอร์ซี่


ลิเวอร์พูล : 4-4-2 
ผู้รักษาประตู : โฆเซ่ เรน่า
กองหลัง : มาร์ติน เคลลี่, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้
กองกลาง : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลูคัส เลว่า  น.44 , ชาร์ลี อดัม, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง
กองหน้า : เดิร์ค เคาท์ (ราอูล ไมเรเลส น.70) , แอนดี้ คาร์โรลล์ (หลุยส์ ซัวเรซ น.70)  น.27









วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2554




 เรียบร้อยโรงเรียน “หงส์แดง” ไปอีกหนึ่งราย สำหรับ สจ๊วต ดาวนิ่ง เมื่อเว็บไซต์ทางการของสโมสรประกาศว่าพวกเขาสามารถตกลงค่าตัวของ สจ๊วต ดาวนิ่ง กับแอสตัน วิลล่า ได้เรียบร้อยแล้ว
 ก่อนหน้านี้ลิเวอร์พูลได้ยื่นข้อเสนอ 15 ล้านปอนด์ให้กับต้นสังกัดของดาวนิ่ง แต่ว่าถูกปฏิเสธมา ซึ่งพวกเขาก็ไม่ยอมแพ้ด้วยการยื่นข้อเสนอใหม่ที่สูงกว่าเดิมให้กับแอสตัน วิลล่า

ลิเวอร์พูลประกาศผ่านเว็บไซต์ทางการของสโมสรว่า “คืนนี้สโมสรลิเวอร์พูลขอประกาศว่าสามารถตกลงค่าตัวกับแอสตัน วิลล่า สำหรับสจ๊วต ดาวนิ่งได้แล้ว”
“ลิเวอร์พูลได้รับอนุญาตให้ตกลงเรื่องสัญญาส่วนตัวและตรวจร่างกายผู้เล่น”
 นับเป็นการเสียผู้เล่นรายสำคัญของแอสตัน วิลล่า เป็นรายที่ 2 ในซัมเมอร์นี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เพิ่งเสีย แอชลีย์ ยังให้กับแมนฯ ยูไนเต็ดไป ซึ่งพวกเขาก็เตรียมที่จะดึง ชาร์ล เอ็นซ็อกเบีย จากวีแกนเข้ามาแทนที่ทางด้านดาวนิ่ง ได้รับอนุญาตให้คุยเรื่องสัญญาส่วนตัวกับว่าที่ต้นสังกัดใหม่ และจะมีการตรวจร่างกายกันต่อไป ซึ่งคาดกันว่าค่าตัวในการย้ายทีมครั้งนี้น่าจะอยู่ที่ราวๆ 20 ล้านปอนด์

วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

นักเตะใหม่ ลิเวอร์พูล

หงส์โอเคค่าตัว ดาวนิง คาด 20 ล้านป.

    
       ลิเวอร์พูล เตรียมต้อนรับ สจวร์ต ดาวนิง เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่หลังบรรลุข้อตกลงกับ แอสตัน วิลลา ได้สำเร็จ โดยคาดว่าค่าตัวของปีกทีมชาติอังกฤษจะอยู่ที่ 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 980 ล้านบาท)
      
        ดาวเตะวัย 26 ปีตกเป็นเป้าหมายหลักในการเสริมทัพช่วงซัมเมอร์นี้ของ เคนนี ดัลกลิช กุนซือหงส์แดง ล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมาก็มีความคืบหน้าไปอีกขั้น หลังจากสามารถตกลงค่าตัวกับ “สิงห์ผงาด” ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้จะไม่มีการเปิดเผยตัวเลข แต่คาดว่าน่าจะอยู่ที่ 20 ล้านปอนด์
      
        ซึ่งเว็บไซต์ของสโมสรลิเวอร์พูล www.liverpoolfc.tv ระบุเรื่องนี้ว่า “ลิเวอร์พูล ขอประกาศว่าตกลงค่าตัวของ สจวร์ต ดาวนิง กับ แอสตัน วิลลา ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้ก็ได้รับอนุญาตให้เจรจารายละเอียดส่วนตัวกับผู้เล่น รวมถึงดำเนินการเรื่องตรวจร่างกาย” โดยก่อนหน้านี้ วิลลา เคยปฏิเสธข้อเสนอจำนวน 12 ล้านปอนด์ (ประมาณ 588 ล้านบาท) และ 15 ล้านปอนด์ (ประมาณ 735 ล้านบาท) มาแล้ว
      
        ทั้งนี้ หากทีมดังย่านเมอร์ซีย์ไซด์จัดการขั้นตอนทุกอย่างเรียบร้อยจะทำให้ ดาวนิง กลายเป็นนักเตะใหม่รายที่ 3 ที่ตบเท้าเข้าสู่ถิ่นแอนฟิลด์ในตลาดนักเตะฤดูร้อนนี้ต่อจาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ชาร์ลี อดัม

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

สโมสรลิเวอร์พูล






สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล (อังกฤษLiverpool Football Club) เป็นหนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จสูงสุดทีมหนึ่งในฟุตบอลอังกฤษลิเวอร์พูลครองแชมป์ดิวิชั่น 1 ถึง 18 ครั้ง ครองแชมป์ยูโรเปียนคัพ 5 ครั้ง ก่อตั้งใน วันที่ 15 มีนาคม ปี พ.ศ. 2435 (ค.ศ. 1892) ลิเวอร์พูลเป็นสโมสรหนึ่งในกลุ่มจี-14 มีฉายาในภาษาไทยว่า "หงส์แดง" พร้อมด้วยคำขวัญ "You'll Never Walk Alone"
สโมสรลิเวอร์พูลก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2435 และก้าวขึ้นมาเป็นสโมสรแนวหน้าของอังกฤษอย่างรวดเร็วจนประสบความสำเร็จเป็นแชมป์ลีกสูงสุดชองประเทศครั้งแรกในปี พ.ศ. 2444 (ฤดูกาล 1900/01) และครั้งที่สองในปี พ.ศ. 2449 (ฤดูกาล 1905/06) ครั้งที่ 3 และ 4 เป็นแชมป์สองฤดูกาลติดใน พ.ศ. 2465 กับ พ.ศ. 2466 (ฤดูกาล 1921/22 กับ 1922/23) แชมป์ลีกสูงสุดครั้งที่ 5 คือปี พ.ศ. 2490 (ฤดูกาล 1946/47) อย่างไรก็ตามลิเวอร์พูลพบกับช่วงตกต่ำต้องไปเล่นในในดิวิชัน 2 ใน พ.ศ. 2497 (ฤดูกาล 1953/54) ภายหลังจึงได้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสโมสรในปี พ.ศ. 2502 สโมสรได้แต่งตั้ง บิลล์ แชงก์คลี เป็นผู้จัดการทีม เขาได้เปลี่ยนแปลงทีมไปอย่างมาก จนประสบความสำเร็จได้เลื่อนชั้นในปี พ.ศ. 2505 (ฤดูกาล 1961/62) และได้แชมป์ลีกสูงสุดของประเทศอีกครั้งใน พ.ศ. 2507 (ฤดูกาล 1963/64) หลังจากรอคอยมานานถึง 17 ปี บิล แชงก์ลี คว้าแชมป์เอฟเอคัพเป็นถ้วยแรกของสโมสรลิเวอร์พูลในปี พ.ศ. 2508 (ฤดูกาล 1964/65)และคว้าแชมป์ดิวิชั้น1 อีกครั้งในฤดูกาลต่อมา พ.ศ. 2509 (ฤดูกาล 1965/66) ความสำเร็จของแชงก์ลียังเดินหน้าต่อไป เมื่อลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ยูฟ่าคัพ พร้อมแชมป์ดิวิชั่น 1 ใน พ.ศ. 2516 (ฤดูกาล 1972/73) และเอฟเอคัพ อีกครั้งใน พ.ศ. 2517(ฤดูกาล 1973/74) หลังจากนั้นบิลล์ แชงก์คลีขอวางมือจากสโมสร โดยให้ผู้ช่วยของเขาสืบทอดตำแหน่ง ผู้จัดการทีมแทน นั่นคือ บ็อบ เพสส์ลี่